ในประวัติศาสตร์ของสเปน การปฏิวัติปี ค.ศ. 1868 เป็นเหตุการณ์สำคัญที่เปลี่ยนแปลงโครงสร้างอำนาจและทิศทางของชาติไปตลอดกาล เหตุการณ์นี้จุดชนuan ของการล่มสลายของราชวงศ์ bourbon และการเปิดประตูสู่ยุคแห่งสาธารณรัฐ
ก่อนหน้าการปฏิวัติ สเปนอยู่ในภาวะที่ไม่มั่นคงอย่างมาก ราชวงศ์ Bourbon ได้สูญเสียความนิยมจากประชาชนเนื่องจากความไร้ประสิทธิภาพและการครองอำนาจแบบเผด็จการ การขึ้นครองราชย์ของสมเด็จพระเจ้าอิซาเบลที่ 2 ในปี ค.ศ. 1833 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งภายใน เนื่องจากพระนางทรงดำรงตำแหน่งในขณะที่ยังเป็นเด็กและการปกครองถูกควบคุมโดยขุนนางและกลุ่ม勢力ต่าง ๆ
อิสริยาธิปัตย์และอำนาจนิยม: การต่อสู้ของสองฝ่าย
การปฏิวัติปี ค.ศ. 1868 เกิดจากการรวมตัวกันของกลุ่มต่างๆ ที่ไม่พอใจกับระบอบกษัตริย์ หนึ่งในผู้นำที่สำคัญที่สุดคือ อิซาเบลที่ 2 ซึ่งถูกเรียกว่า “La Reina Roja” (ราชินีสีแดง) เนื่องจากทรงสนับสนุนการปฏิวัติและการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง
-
ฝ่ายสาธารณรัฐ:
- ประกอบด้วยกลุ่มเสรีนิยม, สหภาพแรงงาน, และนักคิดที่เรียกร้องประชาธิปไตยและสิทธิพลเมือง
- พวกเขามุ่งหวังที่จะโค่นล้มราชวงศ์ Bourbon และสถาปนาสาธารณรัฐ
-
ฝ่ายกษัตริย์:
- ประกอบด้วยกลุ่มอนุรักษนิยม, ขุนนาง, และพวกที่สนับสนุนระบอบกษัตริย์
- พวกเขาพยายามยับยั้งการปฏิวัติและรักษาอำนาจของราชวงศ์ Bourbon
การลุกฮือของประชาชน: แพร่ไปทั่วดินแดนสเปน
การปฏิวัติเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 19 กันยายน ค.ศ. 1868 ในเมืองมาดริด ด้วยการลุกฮือของทหารและพลเรือนที่ไม่พอใจต่อรัฐบาล
การปฏิวัติได้แพร่กระจายไปทั่วดินแดนสเปนอย่างรวดเร็ว ประชาชนจากทุกชนชั้นและอาชีพต่างร่วมมือกันเพื่อโค่นล้มราชวงศ์ Bourbon และสถาแผนาสาธารณรัฐ
ผลของการปฏิวัติ:
- การล่มสลายของราชวงศ์ Bourbon: สมเด็จพระราชินีอิซาเบลที่ 2 ถูกบังคับให้หนีออกนอกประเทศ
- การสถาปนาสาธารณรัฐ: สเปนได้กลายเป็นสาธารณรัฐภายใต้การนำของรัฐบาลชั่วคราว
การปฏิวัติปี ค.ศ. 1868 เป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์สเปน และมีอิทธิพลต่อการพัฒนาทางการเมืองและสังคมของประเทศอย่างมาก มันเปิดทางให้ประชาชนมีส่วนร่วมในกิจการของประเทศ และนำไปสู่การปฏิรูปต่างๆ
อิซาเบลที่ 2: ราชินีผู้ถูกโค่นจากบัลลังก์
สมเด็จพระราชินีอิซาเบลที่ 2 เป็นตัวละครที่น่าสนใจในประวัติศาสตร์สเปน พระองค์ขึ้นครองราชย์เมื่อยังทรงเป็นเด็ก และการปกครองของพระองค์ถูกควบคุมโดยกลุ่ม勢力ต่างๆ
- ความนิยมที่ลดลง: ราชวงศ์ Bourbon กำลังเผชิญกับปัญหาเรื่องความนิยมที่ลดลงจากประชาชนเนื่องจากความไร้ประสิทธิภาพ
- การปฏิวัติ ค.ศ. 1868: การปฏิวัติปี ค.ศ. 1868 โค่นล้มราชวงศ์ Bourbon และทำให้สมเด็จพระราชินีอิซาเบลที่ 2 เสียบัลลังก์
หลังจากการปฏิวัติ, สมเด็จพระราชินีอิซาเบลที่ 2 ได้หนีออกนอกประเทศ และต่อมาทรงสถาปนาตนเองขึ้นเป็นผู้ปกครองของสเปนอีกครั้งในปี ค.ศ. 1874
อิทธิพลของการปฏิวัติ:
การปฏิวัติปี ค.ศ. 1868 มีอิทธิพลอย่างมากต่อการพัฒนาทางการเมืองและสังคมของสเปน
อิทธิพล | รายละเอียด |
---|---|
การสิ้นสุดระบอบกษัตริย์ | การปฏิวัติโค่นล้มราชวงศ์ Bourbon และนำไปสู่การสถาปนาสาธารณรัฐ |
การเปลี่ยนแปลงทางสังคม | การปฏิวัติทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเศรษฐกิจอย่างมาก |
| ความก้าวหน้าทางประชาธิปไตย: | การปฏิวัติส่งเสริมให้มีการปฏิรูปและพัฒนาในด้านประชาธิปไตย
| การปู groundwork | การปฏิวัติเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการปฏิวัติครั้งต่อมาในสเปน
บทสรุป:
การปฏิวัติปี ค.ศ. 1868 เป็นเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงสเปนอย่างรุนแรง และมีอิทธิพลต่อการพัฒนาทางการเมืองและสังคมของประเทศ
การโค่นล้มราชวงศ์ Bourbon และการสถาปนาสาธารณรัฐเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ในประวัติศาสตร์สเปน และเป็นตัวอย่างของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและสิทธิพลเมือง