ปี ค.ศ. 1917 เป็นปีที่น่าจดจำในประวัติศาสตร์รัสเซีย เป็นปีที่เห็นการปฏิวัติครั้งใหญ่สองครั้งซึ่งเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของประเทศไปตลอดกาล การปฏิวัติเดือนมีนาคมโค่นล้มระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ของพระเจ้าซาร์ निकोलस II และนำไปสู่การสถาปนาสาธารณรัฐรัสเซีย ในขณะที่การปฏิวัติเดือนตุลาคมซึ่งเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนต่อมา ทำให้พรรคบอลเชวิคภายใต้การนำของวลาดิมีร์ เลนินยึดครองอำนาจ และนำไปสู่การสถาปนาสหภาพโซเวียต
เราจะมุ่งเน้นไปที่บุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์รัสเซียผู้นี้: Nikita Khrushchev, เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งสหภาพโซเวียต ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1953 ถึง 1964
Khrushchev เป็นที่รู้จักในฐานะผู้นำที่มีความมุ่งมั่นและปฏิรูปอย่างก้าวกระโดดภายหลังการเสียชีวิตของโจเซฟ สตาลิ
นโยบายและการปฏิรูปของ Khrushchev:
- De-Stalinization: Khrushchev ยุติการบีฑาต่อผู้ที่ถูกมองว่าเป็นศัตรูของรัฐโดยสตาลิ น และเริ่มการเปิดเผยความผิดพลาดและอาชญากรรมของระบอบสตาลิ น
- “Peaceful coexistence”: Khrushchev ประกาศนโยบาย " Peaceful coexistence" ซึ่งหมายถึงความปรารถนาที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขกับประเทศตะวันตก แม้จะมีความขัดแย้งทางอุดมการณ์
การปฏิวัติเดือนตุลาคม: ต้นกำเนิดของสหภาพโซเวียต
การปฏิวัติเดือนตุลาคม เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม (7 พฤศจิกายน ตามปฏิทินเกรกอเรียน) ปี ค.ศ. 1917 เป็นการยึดครองอำนาจโดยพรรคบอลเชวิค นำโดยวลาดิมีร์ เลนิน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่รัสเซียกำลังประสบกับความโกลาหลทางการเมืองและเศรษฐกิจอย่างรุนแรง สงครามโลกครั้งที่ 1 ทำให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินอย่างมหาศาล และระบบการปกครองแบบซาร์ก็ล้มเหลวในการแก้ไขปัญหา
สาเหตุของการปฏิวัติเดือนตุลาคม:
สาเหตุ |
---|
ความไม่พอใจต่อระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์: ประชาชนจำนวนมากไม่พอใจต่อการปกครองแบบ專制 ของพระเจ้าซาร์ 니โคลัสที่ 2 และเรียกร้องประชาธิปไตยและความเท่าเทียม |
ความยากจนและความอดอยาก: สงครามโลกครั้งที่ 1 ทำให้เกิดภาวะขาดแคลนอาหารและสินค้าจำเป็น ทำให้ประชาชนชั้นล่างประสบกับความยากจนอย่างหนัก |
การสนับสนุนจากพรรคบอลเชวิค: พรรคบอลเชวิคซึ่งนำโดยเลนิน ได้รับความนิยมจากประชาชน และสัญญาว่าจะสร้างสังคมที่ไม่มีชนชั้นและมีความเท่าเทียมกัน |
การปฏิวัติเดือนตุลาคม: กระบวนการยึดอำนาจ:
- การก่อรัฐประหาร: บอลเชวิคได้รวบรวมกำลังพลและบุกยึดทำเนียบรัฐบาล
- การสถาปนาโซเวียต: พรรคบอลเชวิคประกาศตั้ง “Soviet of People’s Commissars” (สภาคณะกรรมการประชาชน)
ผลกระทบของการปฏิวัติเดือนตุลาคม:
- การสิ้นสุดระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์: การปฏิวัติเดือนตุลาคม ทำให้พระเจ้าซาร์ निकोलัส II สละราชสมบัติ และจักรวรรดิรัสเซียล่มสลาย
- การสถาปนาสหภาพโซเวียต: การปฏิวัติเดือนตุลาคม นำไปสู่การสถาปนาสหภาพโซเวียต ซึ่งเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ที่ครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่ของยุโรปตะวันออก
Nikita Khrushchev และมรดกของเขา:
Khrushchev เป็นผู้นำที่มีความซับซ้อนและมีผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อประวัติศาสตร์สหภาพโซเวียต นโยบาย De-Stalinization ของเขานำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมครั้งใหญ่ ในขณะเดียวกันนโยบาย “Peaceful coexistence” ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการผ่อนคลายความตึงเครียดระหว่างตะวันออกและตะวันตก
Khrushchev ถูกโค่นล้มจากอำนาจในปี ค.ศ. 1964 แต่แนวคิดและนโยบายของเขามีอิทธิพลต่อสหภาพโซเวียตและโลกอย่างต่อเนื่อง